กำลังเป็นประเด็นเดือดในโลกโซเชียล เมื่อมีบริษัทขายตรงชื่อดัง ใช้ดาราตัวท็อปเมืองไทยเป็นพรีเซ็นเตอร์ สร้างดาวน์ไลน์ ขายฝันให้ประชาชนร่วมลงทุน สุดท้าย บางคนขายไม่ได้ตามที่พูด และโฆษณาไว้ ขณะที่ตำรวจเร่งสอบบริษัทดังแล้ว ระบุว่า งานนี้งานช้าง มีดาราดังถูกดำเนินคดีเยอะแน่
โดย เมื่อวันที่ 5 ตุลาคม ที่ผ่านมา ได้มีการจัดกิจกรรมอย่างยิ่งใหญ่ สำหรับดิไอคอนกรุ๊ป หนึ่งในบริษัทธุรกิจออนไลน์ชั้นนำของประเทศไทย ผู้ผลิตและจำหน่าย ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารเพื่อสุขภาพและความงาม จัดงาน iCON EVOLUTION ขึ้นเพื่อเปิดโอกาสให้ผู้เข้าร่วมได้เรียนรู้ประสบการณ์จริงในการทำธุรกิจออนไลน์ จากผู้ที่ประสบความสำเร็จ
โดยการเปิดตัวกิจกรรมดังกล่าว มีทั้ง
แซม-ยุรนันท์ ภมรมนตรี ดำรงตำแหน่ง Chief Research Officer (CRO) ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์
มิน-พีชญา พัฒนามนตรี ดำรงตำแหน่ง Chief Communication Officer ผู้อำนวยการฝ่ายสื่อสารองค์
กันต์ กันตถาวร Chief Marketing Officer (CMO) ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด
รวมทั้งเหล่าพรีเซนเตอร์อย่าง บอย-ปกรณ์ ฉัตรบริรักษ์ และ โดม-ปกรณ์ ลัม
ทั้งนี้ มีคลิปที่ กันต์ กันตถาวร พิธีกรชื่อดังกล่าวบนเวที โดยแนะนำตำแหน่งในบริษัทดังกล่าว คือ แซม-ยุรนันท์ ภมรมนตรี
โดยแซมได้พูดถึงการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ดังกล่าว ไม่ใช่เรื่องง่าย ๆ ต้องใช้เวลากว่าครึ่งปี ส่วนเหตุผลที่ร่วมทำธุรกิจนี้ เพราะมองว่าเรามีสินค้าที่ดี และมีราคาที่คนอื่นสู้ไม่ได้ และมีการตลาดที่ดี รวมทั้งมีพาร์ทเนอร์ที่ดีมาก ๆ
และยังมีคลิปโฆษณาของแอคเคานต์ YouTube ของ THE iCON GROUP ที่ กันต์ กันตถาวร ออกมาแนะนำพูดถึงบริษัท ว่า ทำไม THE iCON GROUP จึงเป็นบริษัทขายของออนไลน์ อันดับ 1 ของประเทศไทย โดยมีการแนะนำ คุณพอล ผู้ก่อตั้งบริษัท พร้อมเล่าถึงประวัติความเป็นมา กว่าจะมาเป็น THE iCON GROUP ในวันนี้
ด้าน ‘บอสพอล’ หรือ พอล วรัตน์พล วรัทย์วรกุล ผู้บริหารบริษัท The iCon Group ซึ่งมีดาราดังมาร่วมงานจนธุรกิจโด่งดัง ขณะนี้ กำลังมีประเด็นในเรื่องธุรกิจของเจ้าตัว เป็นกระแสข่าวร้อนแรงว่าอาจมีความผิด เพราะมีผู้เสียหายหลายรายออกมาบอกว่าเป็นการหลอกลงทุน
วานนี้ (9 ต.ค. 67) บอสพอลได้ออกมาโพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัวถึงเรื่องดังกล่าว ระบุว่า
สวัสดีทุกท่านครับ ผมขอเรียนชี้แจงผ่านทางช่องทางนี้นะครับ ตลอดระยะเวลาที่ผมทำธุรกิจขายปลีก-ขายส่ง ผ่านระบบตัวแทนภายใต้ บริษัท ดิ ไอคอน กรุ๊ป มาเป็นระยะเวลา 6 ปีกว่าแล้ว ผมเชื่อมั่นว่า…ผมดำเนินธุรกิจอย่างถูกต้องโปร่งใสมาโดยตลอด แต่จากเหตุการณ์ที่เกิดเป็นกระแสสังคมขึ้น ณ ขณะนี้ ผมติดตามข้อมูลต่อเนื่องมา และรู้สึกเสียใจอย่างมากที่เกิดเหตุว่า มีผู้เสียหายเกิดขึ้นเนื่องจากการทำธุรกิจกับบริษัทของผม
ผมได้ให้ทีมงานตรวจสอบข้อมูล ปรากฏมีหลายเคสตามที่เกิดดราม่าที่ออกมา ต่อว่า ด่าทอบริษัท กลับไม่ได้เป็น ตัวแทนจำหน่ายของผมแบบที่เค้ากล่าวอ้างเลย และมีอีกหลายเคสที่ขายของกับบริษัทผม แล้วได้เงินกำไรไปจำนวนมาก แต่ก็กลับมาต่อว่า ด่าทอ ในโลกโซเชียลเช่นเดียวกัน